มาตรฐานการสื่อสาร และการทดสอบสายนำสัญญาณ
มาตรฐานในการสื่อสาร และการทดสอบสายนำสัญญาณ
Category 1 / class A : เป็นสายใช้กับโทรศัพท์เท่านั้นไม่สามารถใช้ส่งข้อมูลแบบดิจิตอลได้ สายโทรศัพท์ที่ใช้ก่อนปี 1983 เป็นแบบ Cat 1
Category 2 / class B : เป็นสายรองรับแบนด์วิธได้ถึง 4 MHz ทำให้สามารถใช้ส่งข้อมูลได้ถึง 4 Mbps ประกอบด้วยสายคู่เกลียวบิดอยู่ 4 คู่
Category 3 / class C : เป็นสายที่สามารถส่งข้อมูลได้ถึง 16 Mbps และมีสายคู่เกลียวบิดอยู่ 4 คู่
Category4 : ส่งข้อมูลได้ถึง 16 Mbps และมีสายคู่เกลียวบิดอยู่ 4 คู่
Category 5 / class D : ส่งข้อมูลได้ถึง 100 Mbps โดยใช้ 2คู่สาย และรับส่งข้อมูลได้ถึง 100 Mbps เมื่อใช้สาย 4 คู่สาย
Category 5 / Enhanced (5e) : เหมือนกับ Cat 5 แต่มีคุณภาพดีกว่าเพื่อรองรับการส่งข้อมูลแบบฟูลดูเพล็กซ์ที่ 1000 Mbps ใช้ 4 คู่สาย
Category 6 / class E : รองรับแบนด์วิธได้ถึง 250 MHz
Category 7 / class F : รองรับแบนด์วิธได้ถึง 600 MHz และกำลังอยู่ในการวิจัย
มาตรฐาน EIA / TIA 568 นั้นได้กำหนดคุณสมบัติต่างๆ ของสายสัญญาณ UTP ดังนี้
1. ความต้านทาน (Impedance) : โดยทั่วไปจะกำหนดไว้ที่ 100 Ohm+15%
2. ค่าสูญเสียสัญญาณ (Attenuation) ของสายที่ความยาว100 เมตร คืออัตราส่วนระหว่างกำลังสัญญาณที่ส่งต่อกำลังสัญญาณที่วัดได้ที่ปลายสายโดยมีหน่วยเป็นเดซิเบล (db)
3. NEXT (Near-End Cross Talk) : เป็นค่าของสายสัญญาณรบกวนของสายคู่ส่งต่อสายคู่รับที่ฝ่ายสัญญาณโดยวัดเป็นเดซิเบลเช่นกัน
4. PS –NEXT (Power- sum NEXT) : เป็นค่าที่คำนวณได้จากสัญญาณรบกวน Next ของสายอีก 3 คู่ที่มีผลต่อสายคู่ที่วัด ค่านี้จะมีผลเมื่อใช้สายสัญญาณทั้งคู่ในการรับส่งสัญญาณเช่น จิกกะบิตอีเธอร์เน็ต
5. FEXT (Far-End Cross Talk) : จะคล้ายกับกับ NEXT แต่เป็นการวัดค่าสัญญาณรบกวนที่ปลายสาย
6. ELFEXT (Equal – Level Far –End Cross Talk) : เป็นค่าที่คำนวณได้จากค่าสูญเสียของสัญญาณ(Attenuation) ลบด้วยค่า FEXT ดังนั้นค่า ELFEXT ยิ่งสูงแสดงว่าค่าสูญเสียยิ่งสูงด้วย
7. Ps- ELFEXT (Power – Sum ELFEXT) : เป็นค่าคำนวณที่คล้ายๆกัน กับค่า PS- NEXT คือเป็นค่าที่คำนวณได้จากการรวม ELFEXT ที่เกิดจากสายสามคู่ที่เหลือ
8. Return Loss : เป็นค่าที่วัดได้จากอัตราส่วนระหว่างกำลังสัญญาณที่ส่งไปต่อกำลังสัญญาณที่สะท้อนกับมายังต้นสาย
9. Delay Skew : เนื่องจากสัญญาณเดินทางบนสายสัญญาณแต่ละคู่ด้วยเวลาที่ต่างกันค่าดีเลย์สกิวคือ ค่าแตกต่างระหว่างคู่ที่เร็วที่สุดกับค่าที่ช้าที่สุด
การทดสอบสาย UTP CAT5 CAT6 CAT5e
เมื่อติดตั้ง UTP เสร็จแล้วขั้นตอนต่อไปคือ การทดสอบสายสัญญาณดังกล่าวให้เป็นไปตามมาตรฐาน ซึ่งเครื่องมือที่ใช้ในการทดสอบสาย UTP เรียกว่า Cable Analyzer
สิ่งที่ทดสอบสายสัญญาณนั้นมีดังต่อไปนี้
1. ทดสอบการสิ้นสุดสายที่ปลายทั้งสองด้าน
2. ทดสอบความต่อเนื่องของสาย หรือสายขาดระหว่างปลายทั้งสองด้านหรือไม่
3. ทดสอบว่าสายสัญญาณวงจรแต่ละคู่วงจรปิดหรือไม่
4. การทดสอบการครอสโอเวอร์สาย
5. ค่าคุณสมบัติของสาย ดังที่ได้กำหนดตามมาตรฐานตามตารางที่ 1