ADSS และ ARSS ความแตกต่างของสายไฟเบอร์ออฟติก

การเลือกใช้สายไฟเบอร์ออฟติก เป็นสิ่งสำคัญสำหรับงานโครงข่าย ไม่ว่าจะเป็นระบบโทรคมนาคม ไฟฟ้า หรือระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง โดยเฉพาะ สาย ADSS (All Dielectric Self-Supporting) และ สาย ARSS (Anti Rodent Self-Supporting) ที่มักถูกนำมาเปรียบเทียบกัน เนื่องจากทั้งสองมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน บทความนี้จะอธิบายความหมาย โครงสร้าง ข้อดี ข้อเสีย และการใช้งานของสายทั้งสองประเภท เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกได้อย่างเหมาะสม

สาย ADSS คืออะไร?

สาย ADSS (All Dielectric Self-Supporting) คือสายไฟเบอร์ออฟติกที่สามารถแขวนกลางอากาศได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องใช้ลวดสลิงเสริมแรง โครงสร้างไม่มีโลหะ ทำให้ทนต่อสัญญาณรบกวนทางไฟฟ้า (EMI) ได้ดี เหมาะกับการติดตั้งใกล้สายไฟแรงสูง อีกทั้งยังมีน้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย และปลอดภัยจากกระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนำ โดยมีองค์ประกอบสำคัญของสาย ADSS ได้แก่

  • Optical Fiber ใยแก้วนำแสงสำหรับการส่งสัญญาณ
  • Loose Tube หลอดบรรจุใยแก้ว
  • Thixotropic Jelly เจลป้องกันความชื้น
  • Water-blocking Yarn / Tape ป้องกันน้ำซึมเข้าสาย
  • Central Strength Member (FRP) แกนกลางเสริมแรงชนิดไม่เป็นโลหะ
  • Filler Rod แท่งฟิลเลอร์สำหรับจัดเรียง
  • Aramid Yarn / E-glass Yarn เส้นใยเสริมแรงดึง
  • Black PE Outer Sheath เปลือกนอกป้องกัน UV และสภาพอากาศ

สาย ARSS คืออะไร?

สาย ARSS (Anti Rodent Self-Supporting) คือสายไฟเบอร์ออฟติกที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันสัตว์กัดแทะ เช่น หนู กระรอก หรือสัตว์เล็กอื่น ๆ โดยมีชั้นวัสดุเสริม เช่น Steel Tape เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและต้านทานการกัด เหมาะสำหรับติดตั้งในพื้นที่ชุมชน โรงงานอุตสาหกรรม หรือพื้นที่ที่มีความเสี่ยงจากสัตว์

ความเร็วของสาย ADSS และ ARSS ในปัจจุบัน

ทั้งสาย ADSS และ ARSS ใช้ใยแก้วนำแสงมาตรฐาน เช่น ITU-T G.652D / G.657A1/A2 ซึ่งสามารถรองรับความเร็วการส่งข้อมูลตั้งแต่ 1Gbps จนถึง 400Gbps ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกัน โดยในปัจจุบัน นิยมใช้งานกับระบบ 5G, FTTx และโครงข่าย Backbone ที่ต้องการความเร็วสูงและเสถียร มีองค์ประกอบสำคัญของสาย ARSS ได้แก่

  • Fiber Optic สายใยแก้วนำแสง
  • Tube + Fiber Jelly ท่อและเจลป้องกันความชื้น
  • Water-blocking Yarn / Tape ป้องกันน้ำซึม
  • Central Strength Member แกนกลางเสริมแรง
  • Steel Tape ชั้นเหล็กป้องกันสัตว์กัด (คุณสมบัติเด่น)
  • Aramid Yarn เส้นใยเสริมแรงดึง
  • Outer Sheath + Color Stripe เปลือกนอกป้องกัน UV พร้อมแถบสี

ความแตกต่างระหว่างสาย ADSS และ ARSS

  • โครงสร้าง ADSS ไม่มีโลหะ ส่วน ARSS มักเสริมด้วยวัสดุป้องกันสัตว์กัด
  • การใช้งาน ADSS เหมาะกับไฟฟ้าแรงสูง ส่วน ARSS เหมาะกับพื้นที่มีหนูหรือนกกัดสาย
  • ความทนทาน ADSS ทนต่อแรงดึงและสภาพแวดล้อม ส่วน ARSS ทนต่อการกัดแทะ
  • ต้นทุน ARSS มีราคาสูงกว่าเล็กน้อยเพราะมีชั้นป้องกันเพิ่มเติม

ข้อดีและข้อเสียของสาย ADSS

  • ไม่ถูกกระแสไฟฟ้ารบกวน
  • น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย
  • ใช้งานได้ดีในเสาไฟแรงสูง
  • ไม่เหมาะกับพื้นที่ที่มีสัตว์กัดแทะบ่อย

ข้อดีและข้อเสียของสาย ARSS

  • ป้องกันหนูและสัตว์กัดได้ดี
  • เหมาะกับเขตชุมชน โรงงาน และพื้นที่ป่า
  • ใช้งานกลางแจ้งได้ทนแดดฝน
  • ราคาสูงกว่า ADSS

เลือกใช้งานสาย ADSS หรือ ARSS แบบไหนดี?

  • หากต้องการติดตั้งในเส้นทาง ไฟฟ้าแรงสูง → เลือกใช้ ADSS
  • หากต้องการติดตั้งใน พื้นที่เสี่ยงสัตว์กัดแทะ → เลือกใช้ ARSS
  • หากต้องการความคุ้มค่าในพื้นที่ทั่วไป → เลือกตามสภาพหน้างาน

FAQ คำถามที่พบบ่อย

ADSS ใช้ใต้ดินได้ไหม?

ไม่แนะนำ เพราะออกแบบมาสำหรับแขวนอากาศ

ARSS ติดตั้งร่วมกับสายไฟฟ้าแรงสูงได้หรือไม่?

สามารถทำได้ แต่ต้องตรวจสอบโครงสร้างเสริมป้องกันเพิ่ม

ทั้งสองชนิดรองรับ 5G ได้หรือไม่?

รองรับ หากใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ที่เหมาะสม

สรุปได้ว่า การเลือกใช้งานสาย ADSS หรือ ARSS ควรพิจารณาตามสภาพพื้นที่และความต้องการ หากคุณต้องการสายสำหรับเสาไฟฟ้าแรงสูงที่ไม่ถูกรบกวนจากไฟฟ้า → เลือก ADSS แต่หากกังวลเรื่องสัตว์กัดสาย → เลือก ARSS ทั้งนี้ หากคุณกำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญด้านสายไฟเบอร์และอุปกรณ์เครือข่าย สามารถติดต่อ Focomm Cabling ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสายไฟเบอร์ออฟติกคุณภาพสูง ที่พร้อมให้คำปรึกษาและโซลูชันครบวงจรสำหรับทุกโครงการ ติดต่อได้ที่ Line Official @focomm หรือโทร 02 973 1966 / 081 659 4477 (Admin)

Scroll to Top