ความเร็วของสายใยแก้วนำแสง สิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้!

อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง นับว่ากลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกคนไม่น้อย “สายใยแก้วนำแสง” หรือที่หลายคนเรียกว่า Fiber Optic จึงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะสามารถตอบโจทย์ความเร็ว ความเสถียร และการใช้งานในอนาคตได้ดีกว่าสายทองแดงแบบเดิม บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับเทคโนโลยีไฟเบอร์ พร้อมอธิบายว่าทำไมมันถึงเร็ว และแตกต่างจากสายทองแดงอย่างไร

สายใยแก้วนำแสง คืออะไร ?

สายใยแก้วนำแสง (Fiber Optic) เป็นสายสัญญาณที่ใช้ “แสง” ในการส่งข้อมูล โดยแกนกลางทำจากแก้วหรือพลาสติกใสพิเศษ ซึ่งสามารถส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูงเกือบเท่าความเร็วแสง ข้อดีคือสัญญาณไม่สูญเสียง่าย และไม่ถูกรบกวนจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (EMI) เหมือนสายทองแดง โดยประเภทของสายไฟเบอร์ที่ใช้กันทั่วไป ได้แก่

  • Single-Mode Fiber (SMF) ใช้ส่งข้อมูลระยะไกล (10–100 กม.) ความเร็วสูง เหมาะสำหรับโครงข่ายโทรคมนาคมและอินเทอร์เน็ต backbone
  • Multi-Mode Fiber (MMF) ใช้งานระยะสั้น (ไม่เกิน 2 กม.) นิยมในอาคารหรือดาต้าเซ็นเตอร์

สายใยแก้วนำแสง ใช้ทำอะไร ?

Fiber Optic มีการใช้งานหลากหลายทั้งในชีวิตประจำวันและระดับอุตสาหกรรม เช่น

  • อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง สำหรับบ้านและสำนักงาน รองรับการสตรีมมิ่ง 4K/8K, เกมออนไลน์ และการประชุมวิดีโอ
  • ระบบเครือข่ายดาต้าเซ็นเตอร์ ที่ต้องการแบนด์วิดท์มหาศาลและเสถียรภาพสูง
  • โทรคมนาคม เช่น โทรศัพท์มือถือ 4G/5G และเครือข่ายสื่อสารระหว่างประเทศ
  • งานด้านความปลอดภัย (CCTV/IP Camera) ที่ต้องส่งข้อมูลภาพความละเอียดสูง
  • อุตสาหกรรมและการแพทย์ เช่น เซ็นเซอร์, เครื่องมือแพทย์ Endoscope

สายทองแดง (Copper Cable) คืออะไร ?

สายทองแดงคือสายสัญญาณที่ส่งข้อมูลด้วย “กระแสไฟฟ้า” โดยอาศัยการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอน สายชนิดนี้ถูกใช้กันมานาน เช่น โทรศัพท์บ้าน อินเทอร์เน็ต ADSL และสาย LAN (Cat 5e, Cat 6, Cat 6A) โดยมีคุณสมบัติของสายทองแดงดังนี้

  • ส่งข้อมูลได้ดีในระยะสั้น (≤ 100 เมตร)
  • ราคาถูกกว่าสายไฟเบอร์
  • จ่ายไฟพร้อมส่งข้อมูลได้ (PoE – Power over Ethernet)
  • ติดตั้งง่ายและยังนิยมในระบบเครือข่ายภายใน

ทำไมสายใยแก้วนำแสงถึงเร็วกว่าสายทองแดง?

  1. ใช้แสงแทนไฟฟ้า Fiber Optic ส่งข้อมูลด้วยแสง ซึ่งเร็วกว่าอิเล็กตรอนในทองแดงหลายเท่า
  2. แบนด์วิดท์สูงกว่า รองรับการส่งข้อมูลหลายช่องสัญญาณ (Multiplexing) ได้พร้อมกัน
  3. การสูญเสียสัญญาณต่ำ สายทองแดงส่งได้เพียง 100 เมตร แต่ไฟเบอร์ส่งได้เป็นสิบกิโลเมตรโดยไม่ต้องใช้ Repeater
  4. ทนต่อสัญญาณรบกวน Fiber ไม่ถูกรบกวนจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (EMI) ต่างจากทองแดง
  5. รองรับอนาคต Fiber พัฒนาได้ถึงระดับ Terabit per second (Tbps) เพียงเปลี่ยนอุปกรณ์ปลายทาง

เปรียบเทียบสายใยแก้วนำแสงกับสายทองแดง

คุณสมบัติสายใยแก้วนำแสง (Fiber Optic)สายทองแดง (Copper Cable)
ความเร็วสูงสุด 1–400 Gbps (บางระบบถึง Tbps)ปกติไม่เกิน 1 Gbps
ระยะทาง10–100 กม. โดยไม่ต้องใช้ Repeaterไม่เกิน 100 เมตร
สัญญาณรบกวนไม่ถูกรบกวนจาก EMIไวต่อการรบกวน
น้ำหนัก/ขนาดเบาและบางกว่าหนักและหนากว่า
ราคาต้นทุนสูงกว่า แต่คุ้มค่าระยะยาวราคาถูกกว่า แต่ประสิทธิภาพจำกัด

ความเร็วของสายใยแก้วนำแสงในปัจจุบัน

ความเร็วของสายใยแก้วนำแสง (Fiber Optic Speed) มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับความต้องการใช้งานที่เพิ่มขึ้น โดยสามารถแบ่งได้ดังนี้

  1. ระดับผู้ใช้งานทั่วไป (Home/Office Internet)
    • อินเทอร์เน็ตไฟเบอร์ที่ให้บริการตามบ้านและสำนักงานในปัจจุบันมีความเร็วตั้งแต่ 300 Mbps, 500 Mbps, 1 Gbps จนถึง 10 Gbps
    • เหมาะกับการใช้งานสตรีมมิ่งวิดีโอ 4K/8K, เล่นเกมออนไลน์, ประชุมวิดีโอ (Video Conference) และใช้งานหลายอุปกรณ์พร้อมกัน
  2. ระดับองค์กรและดาต้าเซ็นเตอร์
    • สายใยแก้วนำแสงที่ใช้ในศูนย์ข้อมูล (Data Center) และระบบองค์กร สามารถรองรับความเร็วตั้งแต่ 40 Gbps, 100 Gbps, 200 Gbps ไปจนถึง 400 Gbps
    • ใช้สำหรับงานที่ต้องการ Bandwidth มหาศาล เช่น Cloud Computing, Big Data, AI และระบบ Storage ที่ต้องถ่ายโอนข้อมูลขนาดใหญ่แบบ Real-time
  3. ระดับโครงข่ายโทรคมนาคมและงานวิจัย
    • เครือข่ายสื่อสารระหว่างประเทศ เช่น Submarine Cable (สายไฟเบอร์ใต้น้ำ) สามารถส่งข้อมูลได้ในระดับ Tbps (Terabit per second)
    • ในการวิจัยปัจจุบันมีการทดลองได้ความเร็วเกิน 1 Petabit per second (Pbps) ซึ่งสูงกว่าความต้องการใช้งานจริงหลายเท่า แต่สะท้อนศักยภาพของเทคโนโลยีไฟเบอร์ในอนาคต

ดังนั้น สายใยแก้วนำแสง (Fiber Optic) ถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่เหนือกว่าสายทองแดงทั้งด้านความเร็ว ความเสถียร และการรองรับอนาคต แม้จะมีต้นทุนเริ่มต้นสูงกว่า แต่ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ไม่ว่าจะใช้งานในบ้าน ธุรกิจ หรือระบบเครือข่ายขนาดใหญ่ การเลือกใช้ Fiber Optic คือก้าวสำคัญสู่การสื่อสารที่รวดเร็วและมั่นคงยิ่งกว่า หากคุณกำลังมองหาโซลูชันด้าน สายไฟเบอร์ออฟติก อุปกรณ์เครือข่าย ตู้ Rack, Media Converter, Industrial Switch และอุปกรณ์เสริมที่ได้มาตรฐาน ด้านระบบสายสัญญาณและโครงสร้างพื้นฐานเครือข่าย พร้อมจัดจำหน่ายและให้คำปรึกษาครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นงานบ้าน อาคารสำนักงาน ไปจนถึงโครงการขนาดใหญ่ เลือก Focomm เพื่อมั่นใจในคุณภาพสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ ทั้งความเร็ว ความเสถียร และความคุ้มค่าในระยะยาว ติดต่อได้ที่ Line Official @focomm หรือโทร 02 973 1966
/ 081 659 4477 (Admin)

Scroll to Top